top of page
1b2578da6d717bf3989714ae682abf7f.gif
SergeiProkofievLostMotherland_75389782_0

 Sergei

 Prokofiev

  Sergei Sergeyevitch Prokofiev เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ.1892 ที่เมือง Sontzovka ซึ่งอยู่ใกล้กับ Ekaterinoslav ในยูเครน และเสียชีวิตเมื่อ 5 มีนาคม ค.ศ.1953 ที่กรุงมอสโกว

  ชีวิตในช่วงวัยเด็กของเขาเต็มไปด้วยเสียงดนตรี เขาเป็นเด็กที่มีความเป็นอัจฉริยะ มีความสามารถในการเล่นเปียโนตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากแม่ของเขาก็เป็นนักเปียโนเช่นกัน และเขาได้แต่งโอเปร่าบทแรกในชีวิตเมื่ออายุเพียง 12 ปีเท่านั้น เขาได้เดินทางออกจากรัสเซียในปี ค.ศ. 1917  เพื่อไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสและเดินทางกลับไปยังรัสเซียในปี ค.ศ. 1933  ในขณะนั้นคอมมิวนิสต์ได้เข้ามาในอำนาจในรัสเซียซึ่งได้ออกกฎระเบียบมาบังคับผู้คนมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มศิลปิน การสร้างผลงานใหม่ๆให้เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก 

  หลังจากใช้ชีวิตที่อเมริกายาวนานถึง 15 ปี เขาได้ตัดสินใจกลับมาที่รัสเซียอีกครั้ง แต่ในระหว่างนั้นก็มีการทัวร์คอนเสิร์ตของเขาเกิดขึ้น แบ่งเป็นสองช่วงได้แก่ Russian tour ในปี ค.ศ. 1927 ซึ่งประสบความสำเร็จโดยมีผลงานที่โดดเด่นคือ  Third Piano Concerto, the Classical Symphony, the suite from his opera Love for Three Oranges และอีกครั้งในปีค.ศ. 1929,1932 ถึงอย่างไรก็ตามกระแสการตอบรับในตัวผลงานของเขาไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากสไตล์การแต่งเพลงค่อนข้างที่จะใหม่สำหรับโซเวียต (ซึ่งในขณะนั้นถูกอำนาจทางการเมืองควบคุมทุกอย่าง ทำให้ผู้คนไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับดนตรีสมัยใหม่) แต่เขายืนยันที่จะเรียกตนเองว่า "modernist" คอมโพสเซอร์ต่อไป ไม่ว่าจะโดนโจมตีมากแค่ไหนก็ตาม

Violin Concerto in g minor No.2 Op.63 

 ต่อมาในช่วงเดือนธันวาคม ปีค.ศ. 1934-1935 เขาได้เริ่มเขียน Violin Concerto No.2  เนื่องจากได้รับมอบหมายให้แต่งเพลงสำหรับเพื่อนนักดนตรีชาวฝรั่งเศสเพื่อนำมาใช้ในการแสดงในคอนเสิร์ต โดยแต่งให้กับนักไวโอลิน Robert Soetens การแสดงครั้งแรกที่ Madrid เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ.1935 กับวงออเครสตร้าโดยมี Enrique Fernández Arbós เป็นผู้ควบคุมวง โดยความเป็นมาของบทเพลงนี้เขาได้แรงบันดาลใจในการแต่งจากการที่ได้เดินทางไปมาหลายประเทศ โดยธีมหลักของท่อนที่ 1 ถูกเขียนในปารีส และท่อนที่ 2 ถูกเขียนที่ Voronezh และพาร์ทออเครสตร้าเขียนเสร็จที่ Baku โดยบทเพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงมีนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงได้นำเพลงของเขามาแสดงอีกด้วย

หนึ่งในนั้นก็คือ Jascha Heifetz 

 บทเพลงนี้มีทั้งหมด 3 ท่อนได้แก่ Allegro moderato , Andante assai และ Allegro, ben marcato เริ่มโดยพาร์ทโซโล่ไวโอลินด้วยเมโลดี้ที่สวยงาม อยู่ในโครงสร้างของ sonata form ด้วย articulations ที่ชัดเจนเพื่อแบ่งเซคชั่นที่หลากหลาย และในช่วงเริ่มต้นของธีมที่สอง (Bb) ได้เห็นถึงทำนองที่ไล่ลงมาอย่างไพเราะโดยมีวงสตริงที่เป็นทำนองไล่ขึ้นแทน แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างลงตัว  และในท่อนที่ 2 Andante assai มีความพิเศษคือลายไวโอลินจะเล่นทำนองยาวที่มีจังหวะ 4/4 แต่วงออเครสตร้าจะเล่น 12/8 ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีชื่อเสียงในการประพันธ์เพลงของเขา และในท่อนสุดท้ายเป็นจังหวะเร็วแบบมีชีวิตชีวาเหมือนกับการเต้น โดยมีกลิ่นอายความเป็นสเปนเข้ามาผสมเล็กน้อย และในแต่ละเซคชั่นจะมีความกระฉับกระเฉงของตัวทำนองเอง

"ประสบการณ์ชีวิตของการเดินทางจากประเทศสู่อีกหลายประเทศ จึงทำให้เกิดบทเพลงที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความทรงจำไว้บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ทั้ง style ที่แปลกใหม่ กลิ่นอายของความมีสีสันมากมาย จึงไม่แปลกที่เป็นหนึ่งใน Violin concerto ที่มีความท้าทายและมีชื่อเสียงอย่างมาก"

16f365833376656de959f0638ee3ef20 (1).gif

 นั่นจึงเปรียบได้ว่า คอนแชร์โตบทนี้เป็นดั่งของขวัญที่ระลึกของผู้ประพันธ์เอง หรือเป็นบันทึกการเดินทาง ของเขาซึ่งได้ถูกรวบรวมเอาไว้อยู่ในเพลงๆเดียว 

 

 แล้วถ้าหากสมมติว่า ตัวเราได้เดินทางไปยังสถานที่ในจินตนาการผ่านบทเพลงของนักประพันธ์บ้างล่ะ ? จะเป็นอย่างไร 

.

.

.

.

bottom of page