The world is a wheel คือประสบการณ์การเดินทางผ่านเสียงดนตรีที่ถูกบันทึกไว้ด้วยบทเพลงต่างๆ ที่ประกอบไปด้วยบทเพลง Violin concerto in G minor no.2 op.63 ของ S.Prokofiev ที่เปรียบเสมือนบทเพลงที่ใช้"บันทึกการเดินทาง"จากเมืองสู่เมือง กลิ่นอายของปารีสและความสนุกสนานจากการเต้นรำแบบสเปน ต่อด้วยบทเพลงสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ที่ช่วยให้ระหว่างทางในการนั่งฟังนั้นดูมีสีสัน มีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กลิ่นอายของดนตรีแจ๊สในกรุงปารีส นครแห่งเสียงดนตรีในยามค่ำคืน ที่ทำให้หัวใจของเราเคลิบเคลิ้มไปกับความตื่นตาตื่นใจได้ทุกนาที เป็นผลงานจากนักประพันธ์ผู้มีมุมมองทางด้านดนตรีที่กว้างขวางอย่าง Maurice Ravel ในบทเพลง Violin sonata in G major No.2 M.77 ที่มีการนำความเป็นแจ๊สมาผสมผสานเข้าด้วยกันกับคลาสสิก ความมีสีสัน ท้าทาย และน่าตื่นเต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นการจำกัดความ"การค้นพบและเรียนรู้ระหว่างการเดินทาง"ผ่านบทเพลงนี้ได้อย่างลงตัว ทั้งสนุกสนาน และงดงามในเวลาเดียวกัน ถัดมาเป็น"การเดินทางภายในจิตใจ"ที่นำเสนอผ่านบทเพลง Violin sonata in G major No.18 K.301 จากนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่อย่าง W.A.Mozart โดยบทเพลงนี้จะมีท่วงทำนองที่ไพเราะ สดใส และชวนให้นึกถึงความสุขที่เคยพบเจอในชีวิตแต่แท้ที่จริงแล้ว...เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เบื้องหลังบทเพลงที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ อาจเป็นการเดินทางที่ยากลำบากสำหรับตัวนักประพันธ์เอง สำหรับฉันแล้ว..เพลงนี้มีความหมายมากมายซ่อนไว้อยู่ ความรู้สึกภายในที่ถูกกดทับไว้และปกปิดมันด้วยท่วงทำนองอันแสนอบอุ่น คำร่ำลาจากผู้เป็นที่รักอาจเป็นแค่เพียงโน้ตหนึ่งตัวที่ถูกเขียนลงบทกระดาษ เพื่อท้ายที่สุดแล้ว.. การเดินทางภายในจิตใจของเขาในครั้งนี้ อาจจะเป็นที่จดจำของใครสักคนบนโลกใบใหม่ก็เป็นได้ และบทเพลงสุดท้ายคือ"อิสระของการเดินทาง"นั่นก็คือเพลง Six melodies  ของ John Cage คีตกวีและศิลปินผู้ปราชญ์เปรื่อง ผู้จำกัดความขอบเขตของดนตรีที่ไม่มีขอบเขต ผู้ที่ทำให้เรารู้ว่าดนตรีมีอยู่ทุกที่ เพียงแค่เราต้องเรียนรู้ที่จะได้ยินมันเท่านั้นเอง โดยบทเพลงนี้ได้แสดงถึงอิสระของฮาร์โมนี แม้ถูกแต่งด้วยทำนองที่ไม่ได้หลากหลาย แต่มันสามารถนำไปถูกขยายจากเดิมให้กลายเป็นทำนองที่มีมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้การเดินทางของฉันได้มีอิสระที่จะได้เล่นและฟังด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน