A Night at Bricktop’s:
Jazz in 1930s'Montmartre

Ada Ada Beatrice Queen Victoria Louise Virginia Smith
เกิดเมื่อปีีพ.ศ.1894 หรือที่รู้จักในชื่อ "Bricktop" เธอเป็นทั้งนักร้อง และนักเต้นที่มีความสามารถมากตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการ Jazz Club ที่ต่อมาภายหลังได้เป็นสถานที่บันเทิงทางด้านดนตรี African-American jazz community ในปารีสอีกด้วย
เธอได้แสดงตั้งแต่อายุ 16 ปีี และประสบความสำเร็จในการแสดงอย่างมากมายที่เมืองชิคคาโก้และนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1924 เธอได้เดินทางมาที่ปารีสในฐานะนักแสดงแทนที่ Florence Jones ที่ Le Grand Duc in Montmartre โดยชื่อเสียงของเธอได้ถูกกระจายอย่างถั่วหลาย จนกระทั่งเมื่อปี 1926 เธอได้เปิดกิจการคลับเป็นของตัวเองที่มีชื่อว่า "Music Box" (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนมาเป็น Bricktop) โดยเธอทุ่มเททำหลายหน้าที่ในแรกเริ่ม เป็นทั้งนักร้อง นักบัญชี ผู้จัดการร้าน เป็นต้น





Harlem in Montmartre
บริคส์ท็อปตั้งอยู่ที่ Pigalle ซึ่งเป็นระแวกที่ผสมผสานหลายสถานที่ เช่น ไนท์คลับ ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคาร และเหล่าเพื่อนบ้านที่มีรสนิยมหรูหราที่สุดในกรุงปารีส นั่นจึงทำให้กิจการของเธอเป็นที่รู้จักและนิยมอย่างมาก ด้วยคาแรคเตอร์ที่แสนมีสเน่ห์ของเธอได้สร้างพันธมิตรให้กับลูกค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ต่อมาในปีี 1931 ร้านบริคส์ท็อปได้ย้ายไปที่คลับเก่าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง The Monico และได้จ้างนักร้องที่มีชื่อว่า Mabel Mercer รวมถึงนักดนตรีที่มีฝีมือ อาธิเช่น Sidney Bechet และ Django Reinhart นอกจากนี้ยังมีนักดนตรีท่านอื่นเข้ามาร่วมแสดงด้วย ได้แก่ Louis Armstrong, Fats Waller, Duke Ellington


ในปีีเดียวกันนั้น Cole Porter ได้แต่งเพลงใหม่ให้กับเอด้าเพื่อแสดงอีกด้วย โดยเพลงมีชื่อว่า "Miss Otis Regrets" ซึ่งต่อมากลายเป็นเพลงประจำตัวของเธอไปนั่นเอง

"Miss Otis' is a song about a rich woman whose lover deserts her. She tracks him down, pulls a gun out of her velvet gown, and shoots him. In the end, she's hanged for it. Very few people do it correctly. In my performance, I bow at the end, raising my hand in a motion across my neck to suggest a lynching." - Bricktop
Queen of Paris Nightclubs
ในยุคสมัยค.ศ. ปี 1930 เอด้า บริคส์ท็อปได้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในฐานะ
"ราชินีแห่งวงการไนท์คลับในกรุงปารีส" แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะมีอุปสรรคเรื่องสงครามในสมัยนั้นทำให้มีผลกระทบต่อกิจการของเธอ แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดจบของบริคส์ท็อป เพราะเธอได้ไปเปิดอีกสองสาขาที่เม็กซิโก,โรม และนิวยอร์ก
ต่อมาในปี 1973 เมื่อเธออายุได้ 78 ปี ก็ปลดเกษียณจากการทำงาน แต่เธอก็ยังคงเป็นบุคคลผู้น่ายกย่องที่สุดในศตวรรษ เธอได้เป็นผู้นำทางด้านดนตรีแจ๊สให้แพร่หลายในกลุ่มสังคมในปารีสอย่างมาก และยังมีผลงานที่น่าชื่นชมไว้เป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลังได้สืบต่อไป

จะเห็นได้ว่าตัวบริคส์ท้อปเองก็เป็นผู้ให้แรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีชาวแจ๊สอีกหลายยุคสมัย และครั้งหนึ่งคลับแจ๊สของเธอก็เป็นสถานที่ที่นักประพันธ์อย่าง Ravel ได้เก็บเกี่ยวดนตรีใหม่ๆเพื่อนำไปสร้างสรรค์ผลงานของตนเองอีกต่อไป
.
.
.
การเค้นพบและเรียนรู้ระหว่างการเดินทาง - Violin Sonata No.2 M.77